ทักทายกัน....ประสาพี่น้อง
งานวันแม่ของโรงเรียนเราในปีนี้ คุณครูวินิจ วงเวียน มาขับเสภา พระคุณแม่ ให้ฟัง ทำเอาน้ำตาซึมกันทั้งงานเลย
นอกจากค่าตัวฟรีแล้ว ท่านยัง บริจาคเงินร่วมงานอีกด้วยครับ
มีหลายต่อหลายคนที่เกษียณ
อายุราชการไปแล้ว แต่ยังคงไขว่คว้าหาอำนาจและบารมี ให้กับตนอย่างไม่ลดละ จะมีครูสักกี่คนที่เพียรถ่ายทอดความรู้อย่างบริสุทธิ์ใจให้แก่ผู้อื่น
และสามารถเป็นแรงบันดาลใจ (inspiration) ให้กับคนอื่นได้
ขอบคุณ ครูวินิจ วงเวียน ที่ทำให้หัวใจแห่งความเป็นครูของข้าพเจ้า
พองโตขึ้น
........ขอคารวะคุณครูครับ......
ปราโมทย์ พลศักดิ์เดช
กิจกรม
-ครูและนักเรียนร่วมทำบุญเข้าพรรษา (1
ส.ค. 55)
-คณะกรรมการนักเรียนรับมอบตำแหน่ง (20 ส.ค. 55)
-ทาสีใหม่ให้ห้องสมุด
-สี
TOA บริจาค
(6 ส.ค.
55)
-ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาฯ (30 ส.ค. 55)
-ร่วมประชุมเครือข่าย
ที่ อ.ศรีณรงค์ (31 ส.ค.
54)
-วันแม่
และทำบุญโรงเรียน (10 ส.ค.
55)
-ไหว้พระคุณแม่
-ทำบุญร่วมกัน
-ครูวินิจ วงเวียน ขับเสภา
-นักเรียนแสดงที่
อบต.ณรงค์ (12 ส.ค.
55)
อโรคยาศาลเจียงเป็ย.....
วิถีชีวิตและรากเหง้าแห่งความศรัทธา
ข่าวคราวความอาถรรพ์ของปราสาทช่างปี่
ช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา ทำเอาคนสุรินทร์อย่างข้าพเจ้าต้องหยุดคิดสะกิดตัวเองว่า
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…………
เนื้อข่าว
มติชน เสนอข่าวว่า มีคนนำวัตถุโบราณที่ขุดพบ จากปราสาทช่างปี่ไป จึงเป็นเหตุให้มีชาวบ้านในพื้นที่ เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุไปแล้วจำนวน 33 ราย เชื่อ เป็นเพราะอาถรรพ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ขององค์ปราสาท ช่างปี่ นอกจากนั้นยังมีเหตุไฟไหม้โรงเรียน และมีพายุ ใหญ่พัดถล่มบ้านเรือน
ในเขตพื้นที่ตำบลช่างปี่กว่า10 หมู่บ้านจน เสียหายกว่าร้อยหลังคาเรือน จึงทำให้ชาวบ้านจำนวนมากจากหลายหมู่บ้านทั้งในตำบลช่างปี่
และตำบลข้างเคียง
เดินทางนำเครื่องเซ่นไหว้มาบวงสรวงเพื่อขอขมาต่อทวยเทพที่รักษาองค์ปราสาทอย่างไม่ขาดสาย รวมทั้งได้บริจาคที่ดินคืนให้ทางวัด เพื่อเป็นเขตปราสาท อีกด้วย
ตำนานและความเชื่อ
ปราสาทช่างปี่ เป็นอโรคยศาล หรือ อโรคยศาลา
หรือโรงพยาบาล หนึ่งในจำนวน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมโบราณ
โปรดให้สร้างขึ้น ตั้งอยู่ที่บ้านช่างปี่ ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่
18 มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ก่อด้วยศิลาแลง และหินทราย
ตั้งแต่ปี 2553
กรมศิลปากร ได้ทำการบูรณะปราสาทช่างปี่ พบโบราณวัตถุจำนวนมากส่วนหนึ่งนำไปเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ -
สถานแห่งชาติ สุรินทร์ อีกส่วนหนึ่งเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านช่างปี่
หลากมุมมอง
จากข่าวที่เสนอไป ก็ทำให้คนที่เสพข่าว
มองคนสุรินทร์เราเป็นสองทาง คือ เชื่องมงายทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งก็ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ซึ่งถ้าวิพากษ์โดยยึดหลักความเชื่อมาว่ากัน
จะเห็นว่าความเชื่อกระแสหลักปัจจุบันมุ่งให้คนรับใช้วิทยาศาสตร์
ดังนั้นแล้วย่อมจะมองว่างมงาย ไม่สมเหตุผล แต่ความเชื่อกระแสรองที่หยั่งรากลึกตั้งแต่อดีต
ได้ทำหน้าที่รับใช้ชุมชน จนกลายเป็นขนบประเพณีนั้น ย่อมเห็นว่าการทำพิธีกรรมนั้นเหมาะควรแล้ว ข้าพเจ้าเป็นชาวสุรินทร์โดยกำเนิด เติบโตมาก็พบเห็นการเซ่นสรวงบูชา
จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา และมีความเชื่อว่าการแสดงความอ่อนน้อมต่อผู้อื่นหรือสิ่งอื่นจะช่วยจรรโลงให้เราอยู่ร่วมกันได้
จึงขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวช่างปี่ได้ผ่านพ้นเรื่องราวนี้ไป และให้รักษา อัตลักษณ์ที่เข้มแข็งของชุมชนนี้ไว้ อย่างภาคภูมิ
บทส่งท้าย
การพูดถึงเรื่องของความเชื่อนั้นเปราะบางยิ่งนัก
ซึ่งในประเด็นนี้ ครูเราจะคิดอ่านประการใดก็ตามแต่
เพียงให้ตั้งมั่นในความดีงามและปฏิบัติตามหน้าที่อย่างfเต็มกำลัง เท่านี้ก็ถือว่า เราได้เชื่ออย่างถูกต้องแล้วละครับ
....แนะนำบุคลากร.....
ชื่อ นางทุมพร
สกุล บุตรงาม
ชื่อเรียก ป้าเหมียว
สถานะ
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานร.ร.รัฐราษฎร์พัฒนา ท่านมีความสามารถด้านการทำอาหาร และเป็นแม่ครัวประจำของ
ร.ร. ทั้งยังเป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนาชุมชน
ถือว่าท่านเป็นครูภูมิปัญญาของพวกเรา
“ความพยายาม นำมาซึ่งความสำเร็จ”