วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

วารสารฉบับ16


ทักทายกัน....ประสาพี่น้อง
         งานวันแม่ของโรงเรียนเราในปีนี้ คุณครูวินิจ  วงเวียน  มาขับเสภา พระคุณแม่ ให้ฟัง ทำเอาน้ำตาซึมกันทั้งงานเลย
นอกจากค่าตัวฟรีแล้ว ท่านยัง บริจาคเงินร่วมงานอีกด้วยครับ
          มีหลายต่อหลายคนที่เกษียณ อายุราชการไปแล้ว แต่ยังคงไขว่คว้าหาอำนาจและบารมี ให้กับตนอย่างไม่ลดละ  จะมีครูสักกี่คนที่เพียรถ่ายทอดความรู้อย่างบริสุทธิ์ใจให้แก่ผู้อื่น และสามารถเป็นแรงบันดาลใจ (inspiration) ให้กับคนอื่นได้   
       ขอบคุณ ครูวินิจ วงเวียน ที่ทำให้หัวใจแห่งความเป็นครูของข้าพเจ้า พองโตขึ้น
                              ........ขอคารวะคุณครูครับ......

                                                ปราโมทย์  พลศักดิ์เดช
กิจกรม
-ครูและนักเรียนร่วมทำบุญเข้าพรรษา  (1 ส.ค. 55)
-คณะกรรมการนักเรียนรับมอบตำแหน่ง  (20 ส.ค. 55)
-ทาสีใหม่ให้ห้องสมุด
-สี TOA บริจาค (6 ส.ค. 55)
-ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาฯ (30 ส.ค. 55)

-ร่วมประชุมเครือข่าย ที่ อ.ศรีณรงค์ (31 ส.ค. 54)
-วันแม่ และทำบุญโรงเรียน (10 ส.ค. 55)
-ไหว้พระคุณแม่            
 -ทำบุญร่วมกัน
-ครูวินิจ วงเวียน ขับเสภา              
-นักเรียนแสดงที่ อบต.ณรงค์ (12 ส.ค. 55)


      อโรคยาศาลเจียงเป็ย.....
วิถีชีวิตและรากเหง้าแห่งความศรัทธา
     ข่าวคราวความอาถรรพ์ของปราสาทช่างปี่ ช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา ทำเอาคนสุรินทร์อย่างข้าพเจ้าต้องหยุดคิดสะกิดตัวเองว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…………                                                         
   เนื้อข่าว  
      มติชน เสนอข่าวว่า  มีคนนำวัตถุโบราณที่ขุดพบ       จากปราสาทช่างปี่ไป จึงเป็นเหตุให้มีชาวบ้านในพื้นที่     เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุไปแล้วจำนวน 33 ราย เชื่อ  เป็นเพราะอาถรรพ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขององค์ปราสาท     ช่างปี่  นอกจากนั้นยังมีเหตุไฟไหม้โรงเรียน และมีพายุ ใหญ่พัดถล่มบ้านเรือน ในเขตพื้นที่ตำบลช่างปี่กว่า10 หมู่บ้านจน  เสียหายกว่าร้อยหลังคาเรือน  จึงทำให้ชาวบ้านจำนวนมากจากหลายหมู่บ้านทั้งในตำบลช่างปี่ และตำบลข้างเคียง เดินทางนำเครื่องเซ่นไหว้มาบวงสรวงเพื่อขอขมาต่อทวยเทพที่รักษาองค์ปราสาทอย่างไม่ขาดสาย  รวมทั้งได้บริจาคที่ดินคืนให้ทางวัด เพื่อเป็นเขตปราสาท อีกด้วย
        ตำนานและความเชื่อ                                                                                   
ปราสาทช่างปี่ เป็นอโรคยศาล หรือ อโรคยศาลา หรือโรงพยาบาล หนึ่งในจำนวน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมโบราณ โปรดให้สร้างขึ้น ตั้งอยู่ที่บ้านช่างปี่ ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 18 มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง และหินทราย
           ตั้งแต่ปี 2553 กรมศิลปากร ได้ทำการบูรณะปราสาทช่างปี่ พบโบราณวัตถุจำนวนมากส่วนหนึ่งนำไปเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ -             
  สถานแห่งชาติ สุรินทร์ อีกส่วนหนึ่งเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านช่างปี่                 
หลากมุมมอง
จากข่าวที่เสนอไป ก็ทำให้คนที่เสพข่าว มองคนสุรินทร์เราเป็นสองทาง คือ เชื่องมงายทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งก็ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ซึ่งถ้าวิพากษ์โดยยึดหลักความเชื่อมาว่ากัน จะเห็นว่าความเชื่อกระแสหลักปัจจุบันมุ่งให้คนรับใช้วิทยาศาสตร์ ดังนั้นแล้วย่อมจะมองว่างมงาย ไม่สมเหตุผล แต่ความเชื่อกระแสรองที่หยั่งรากลึกตั้งแต่อดีต ได้ทำหน้าที่รับใช้ชุมชน จนกลายเป็นขนบประเพณีนั้น  ย่อมเห็นว่าการทำพิธีกรรมนั้นเหมาะควรแล้ว  ข้าพเจ้าเป็นชาวสุรินทร์โดยกำเนิด เติบโตมาก็พบเห็นการเซ่นสรวงบูชา จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา และมีความเชื่อว่าการแสดงความอ่อนน้อมต่อผู้อื่นหรือสิ่งอื่นจะช่วยจรรโลงให้เราอยู่ร่วมกันได้      จึงขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวช่างปี่ได้ผ่านพ้นเรื่องราวนี้ไป  และให้รักษา      อัตลักษณ์ที่เข้มแข็งของชุมชนนี้ไว้ อย่างภาคภูมิ
                บทส่งท้าย
การพูดถึงเรื่องของความเชื่อนั้นเปราะบางยิ่งนัก  ซึ่งในประเด็นนี้ ครูเราจะคิดอ่านประการใดก็ตามแต่  เพียงให้ตั้งมั่นในความดีงามและปฏิบัติตามหน้าที่อย่างfเต็มกำลัง  เท่านี้ก็ถือว่า เราได้เชื่ออย่างถูกต้องแล้วละครับ                                                                                           
 ขอบคุณข้อมูล    http://www.matichon.co.th และ tripsurin.wordpress.com
 ....แนะนำบุคลากร.....
ชื่อ  นางทุมพร
สกุล  บุตรงาม
ชื่อเรียก  ป้าเหมียว                              

      สถานะ
   คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานร.ร.รัฐราษฎร์พัฒนา    ท่านมีความสามารถด้านการทำอาหาร และเป็นแม่ครัวประจำของ ร.ร.  ทั้งยังเป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนาชุมชน ถือว่าท่านเป็นครูภูมิปัญญาของพวกเรา

ความพยายาม  นำมาซึ่งความสำเร็จ