ทักทายกัน....ประสาพี่น้อง
ฤดูหนาวในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้นร้อนเหลือเกิน แต่กิจกรรมสำหรับเด็กๆ ก็ยังคงดำเนินไปตามวงรอบของการพัฒนาตามแผนที่วางไว้เริ่มต้นเดือนด้วยการไปให้กำลังใจนักเรียนและชมนิทรรศการในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่
จ.ชัยภูมิ ปิดท้ายด้วยการร่วมแข่งขันกีฬาเครือข่ายที่
23 ซึ่งกิจกรรมที่งอกเข้ามาในแต่ละครั้งนั้นก็ต้องหยุดเรียน
รวมๆ แล้วแทบจะ 1 ใน 4 ของเวลาทั้งหมด จึงเกิดคำถามว่าที่ทำมามันถูกทางหรือไม่
ผลสัมฤทธิ์ที่เป็นปัญหานั้นเกิดจากกิจกรรมที่เพิ่มมาหรือเปล่า ก็ว่ากันไปละครับ
แต่ผมเชื่อว่านี่แหละคือสีสันของการเรียนการสอนและเป็นสีสันของชีวิตด้วย
สวัสดีปีใหม่ 2556 ครับ
กิจกรรม
-ร่วมพิธีถวายพระพรในหลวง ณ อ.ศรีณรงค์ (5 ธ.ค.55)
-ดูงานแสดงผลงานนักเรียนระดับภาค
ที่ จ.ชัยภูมิ (7 ธ.ค. 55) ทีมแข่ง
GSP ของเราได้เหรียญเงิน ลำดับที่ 43
รถตู้
1
คัน บรรทุกนักเรียน 6 ครู 8 มีความสุขสนุกสนานผสานความรู้
-รถ Mobile
ของ อบจ.สุรินทร์ มาให้บริการเด็กๆ(12ธ.ค.55)
-งานกีฬาเครือข่าย ศรีณรงค์ 2 ประจำปี 2555 ณ ร.ร.บ้านโสน (26-28 ธ.ค. 55)
ผลงาน 1 เหรียญทอง ตะกร้อชาย 12 ปี 1 เหรียญทองแดง ฟุตบอลอนุบาลหญิง
...เต่ากับกระต่าย...
อมตะนิทานเรื่อง “กระต่ายกับเต่า” ของอีสป สอนเราให้พากเพียรเยี่ยงเต่าและอย่าประมาทเช่นกระต่าย ซึ่งกระต่ายกับเต่าเหล่านั้นได้เติบใหญ่ขึ้น
และได้บ่มเพาะลูกหลานไว้อย่างมากมาย มุมดีๆ
เรื่องความเพียร น่าชื่นชมยิ่งนัก แต่มุมบอดเรื่องแพ้ชนะ นั้นน่ากลัวไม่น้อยทุกวันนี้การแข่งขันกันมีทุกด้านและเกิดขึ้นทุกแง่มุมของชีวิต เรื่องแพ้ชนะจึงวนเข้าเวียนออกจนกลายเป็นเรื่องปกติและถูกยอมรับว่าธรรมดาเสียแล้ว
ในระดับมหภาค การแข่งขันรุนแรงและเกรี้ยวกราดมากแทบทุกประเทศมีกองทัพที่พร้อมแสดงแสนยานุภาพ
มีกล-ยุทธทางเศรษฐกิจที่พร้อมจะชนะตลอดเวลา
มีเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ภาพที่ปรากฎ คือ
กระต่ายยังคงวิ่งไปไม่ยอมหยุดพัก เต่าก็เพียรพยายามไล่ตามอย่างไม่ลดละการหันหน้าหากันและจับมือช่วยเหลือกันอย่างจริงใจนั้นเป็นเรื่องยากยิ่ง แล้วที่สุดของที่สุดจะหยุดตรงไหนย้อนมองมาที่โรงเรียน
การจัดการเรียนการสอนของครูเรานั้นให้แง่คิดและมุมมองใดแก่เด็ก เพราะในบางสถานการณ์เราก็เป็นเช่นกระต่าย
แต่บางโอกาสเราก็กลายเป็นเต่า
หากเอาเส้นชัยเป็นเป้าหมาย ก็ย่อมต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ ซึ่งเป็นสองสิ่งที่ยากจะบรรจบกัน
หลักคิดที่จะปลูกฝังให้กับเด็กๆ นั้น ควรเป็นอย่างไร เพื่อให้เขาเหล่านั้นใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขบนความสมเหตุสมผล
มีแนวคิด
ทฤษฎีทั้งของฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกที่นำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตให้เป็นสุข ซึ่งครูเราสามารถค้นคว้ามาใช้สำหรับเติมเต็มเป็นหลักคิดให้นักเรียนได้
แต่ทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ คือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง เพราะได้ตอบโจทย์ที่เหมาะกับความเป็นไทยมากที่สุด
กล่าวคือ โครงสร้างของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มี 3 ระดับ เริ่มตั้งแต่จัดการตนเองให้มั่นคง
ต่อด้วยการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง และสรุปด้วยการสร้างเครือข่ายองค์กรที่ยั่งยืน ในแต่ละระดับจะมี
3 องค์ประกอบ
คอยหล่อเลี้ยงให้วงจรขับเคลื่อนไปอย่างสมดุล
ได้แก่ พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน
โดยมีความรู้และคุณธรรมเป็นหางเสือ ซึ่งเราจะพบว่าหลักการนี้ ไม่มีแพ้ ไม่มีชนะ
มีเพียงเส้นชัยที่เราเห็นร่วมกันเท่านั้น ในภาษาทางการทูตเรียกว่า
win-win คือได้รับประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย
เมื่อเด็กๆ มีหลักคิดที่ดีและนำสู่การปฏิบัติได้ถูกการปรับทิศของสังคมให้ไปในทางที่เหมาะควรก็เป็นเรื่องไม่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งผลกระทบในระดับจุลภาคนี้จะเป็นตัวชี้นำความเป็นมหภาคด้วยเช่นเดียวกัน
ถ้าตอนจบของนิทานกระต่ายกับเต่า มิใช่เต่าเข้าเส้นชัยเพราะพากเพียรและมิใช่กระต่ายตื่นขึ้นมาทันแล้วรีบวิ่งเข้าเส้นชัยก่อน
หากแต่เป็นภาพที่ เต่าปลุกกระต่ายให้ตื่นขึ้นมาแล้วจูงมือกันเดินเข้าเส้นชัยอย่างเป็นสุขนั้น
จะดีเพียงใด และคงไม่ทำให้ท่านอิสป ฟื้นขึ้นมาเอาเรื่องกับพวกเราหรอกกระมัง
ขอบคุณข้อมูล :
เศรษฐกิจพอเพียง.net และบทเพลงกระต่ายกับเต่า ของคาราวาน
...คนเด่นประจำเดือน....
เด็กชายผดุงเกียรติ ทองคำ
น้องยิม
25 สิงหาคม 2543
ตำแหน่ง
ประธานนักเรียน
ร.ร.รัฐราษฎร์พัฒนา
ความภูมิใจ เหรียญเงิน ลำดับ 43
จากงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับภาคปี 2555 รายการ โปรแกรม GSP
“ตั้งใจเรียนวันนี้ อนาคตดีวันหน้า”